ทัวร์ดูไบ อาบูดาบี ตะลุยทะเลทราย บุรจญ์อัลอาหรับ ช้อปปิ้ง (SUPER SAVE DUBAI ABUDHABI) 4วัน 3คืน


Special Tour

Day 1 : กรุงเทพฯ-ดูไบ (-/-/-)
Day 2 : ดูไบ-อาบูดาบี- GRAND MOSQUE- Heritage Village-ชมตึก BURJ KHALIFA-DUBAI MALL-น้ำพุเต้นระบำ (B/L/-)
Day 3 : ดูไบ-GOLD&SPICE SOUK-JUMEIRAH BEACH-บุรจญ์อัลอาหรับ BURJ AL ARAB-นั่งรถ Monorail-THE PLAM-ทัวร์ทะเลทราย(4WD) (B/L/D)
Day 4 : ดูไบ-กรุงเทพฯ (-/-/-)

Highlight

เที่ยวดูไบ ทัวร์ดูไบ อาบูดาบี ตะลุยทะเลทราย บุรจญ์อัลอาหรับ ช้อปปิ้ง (SUPER SAVE DUBAI ABUDHABI) 4วัน 3คืน ,ชมตึกเบิร์จคาริฟา BURJ KHALIFA (THE TALLEST TOWER IN THE WORLD) ตึกที่มีความสูงที่สุดในโลก มีความสูงเหยียบ 828 เมตร 160 ชั้น, นั่ง Monorail ชมโครงการสุดอลังการ The Plam,ตะลุยทะเลทรายโดยรถ4WD พร้อมกิจกรรมแคมป์ปิ้ง ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกดินดินเนอร์ใต้แสงจันทร์, ชมพรมผืนใหญ่ที่สุด ณ GRAND MOSQUE ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก,ช้อปปิ้งจุใจทั้งสินค้าพื้นเมืองและแบร์นเนม Dubai Mall

ทัวร์ดูไบ อาบูดาบี ตะลุยทะเลทราย บุรจญ์อัลอาหรับ ช้อปปิ้ง (SUPER SAVE DUBAI ABUDHABI) 4วัน 3คืน

รายละเอียดการเดินทาง | ITINERARY

วันที่ 1 กรุงเทพฯ-ดูไบ (-/-/-)
คณะพร้อมกันที่สนามบิน (ตั๋วเครื่องบินไม่รวมในแพคเกจ)
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินที่ท่านเลือก
ค่ำ รถพร้อมคนขับ รับท่านจากสนามบิน นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูไบ (Dubai) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้ง อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ถือเป็นเมืองแห่งความมหัศจรรย์เพราะถูกผันแปรจากดินแดนแห่งทะเลทราย สู่ดินแดนแห่งโลกอนาคต ความมั่งคั่งทางการค้า บริการการพัฒนาอสังหาริม ทรัพย์และศูนย์กลางธุรกิจ ไม่จำกัดเฉพาะการค้าน้ำมันแบบก่อนๆ สู่การเป็นเมืองแห่งผู้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ไม่มีสิ่งใดบนโลกใบนี้ที่เมืองดูไบจะทำไม่ได้ แม้การสร้างแผ่นดินและจารึกลงบนแผนที่โลกในอาณาเขตของตนเอง
นำท่านกลับสู่โรงแรม เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2 ดูไบ-อาบูดาบี- GRAND MOSQUE- Heritage Village-ชมตึก BURJ KHALIFA-DUBAI MALL-น้ำพุเต้นระบำ (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะเดินทางสู่ นครอาบูดาบี ซึ่งห่างจากตัวเมืองดูไบ 180 กิโลเมตร (ประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองอาบูดาบีได้รับสมญานามว่าเป็น Garden Of Gulf เพราะความเขียวขจีของ ต้นไม้นานาชนิดที่ปกคุมทั่วทั้งบริเวณเมือง อาบูดาบี จนได้รับการยกย่องให้เป็น สวรรค์แห่งทะเลทราย

**** หมายเหตุ โปรดแต่งกายสุภาพออกจากโรงแรมเพื่อเข้ามัสยิดชิคซาเญด ****
ผู้หญิง: ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือมิดชิด ไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศรีษะ ห้ามใส่กางเกงเลคกิ้ง หรือ กางเกงรัดรูป
ผู้ชาย: ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป


จากนั้นนำท่านชม GRAND MOSQUE หรือ SHEIKH ZAYED BIN SULTAN AL และเป็นสุเหร่าประจำเมืองของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ที่ท่าน สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างรวมทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี สุเหร่านี้มีพรมผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน นอกจากนี้ มัสยิดแห่งนี้ยังเป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed binSultan Al Nahyan อดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี้ จากนั้นนำท่านชม HERITAGE VILLGE ซึ่งเป็นหมู่บ้านพื้นเมืองจำลองความเป็นอยู่ของชาวเบดูอิน ที่เคยเร่ร่อนอยู่ในทะเลทราย ให้ท่านอิสระกับการถ่ายภาพและเลือกซื้อของเป็นที่ระลึกได้จากหมู่บ้าน
กลางวัน รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ ดูไบ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดูไบเพื่อนำท่านชม ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ BURJ KHALIFA (THE TALLEST TOWER IN THE WORLD) หรือเดิมชื่อ บุรจญ์ดูไบหนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกทั้งยังเป็นฉากเสี่ยงตายสำคัญของพระเอก “ทอมครูซ” จากภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible4 ซึ่งตึกมีความสูงถึง 828 เมตร ปัจจุบันมีทั้งหมด 160 ชั้นเป็นตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก ตัวตึกได้ทำสถิติกลายมาเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 546 เมตร แซงตึกไทเป101 เรียบร้อย (สูงกว่าตึกไทเป101 ประมาณ 97 เมตร และสูงกว่าอาคารใบหยก2 ประมาณ 218 เมตร) ซึ่งได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2553 และ เปลี่ยนชื่ออาคารจาก "บุรจญ์ดูไบ" เป็น "บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์" เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านชีคค์ อดีตประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ออกแบบโดยเอสโอเอ็ม ผู้ออกแบบเดียวกันกับเซียร์ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันการตกแต่งภายในจะตกแต่งโดยจอร์โจอาร์มานี Giorgio Armani โดยเป็นโรงแรมอาร์มานีสำหรับ 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็นอพาร์ตเมนต์โดยที่เหลือจะเป็นสำนักงานและชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึกที่สำคัญ ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสารนอกจากนี้ ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่โดยตึกนี้ จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ความเร็ว18 ม./วินาที (65 ก.ม./ชม.,40 ไมล์/ชม.) โดยลิฟต์ที่มีความเร็วสูงสุดอันดับที่ 2 ปัจจุบันอยู่ที่ตึกไทเป101 ที่มีความความเร็ว 16.83 ม./วินาที
นำท่านช้อปปิ้ง ห้างดูไบมอลล์ (Dubai Mall) เป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุดของเมืองดูไบโดยจำลอง อาทิเช่น ห้าง Gallaria Lafayette ห้างชื่อดังของฝรั่งเศส ห้าง Bloomingdales อันยิ่งใหญ่จากอเมริกาเป็นศูนย์รวมแบรนด์เนมชั้นนำแนวหน้าจากทั่วทุกมุมโลก ท่านสามารถเลือกชมเทคโนโลยีล้ำสมัยของน้ำพุเต้นระบำที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการจัดแสดงที่บริเวณหน้าห้างดูไบมอลล์ เริ่มตั้งแต่ 17.30-24.00 น. โดยการแสดงจะเริ่มทุกๆ 30 นาที จากจุดนี้สามารถถ่ายรูปคู่กับ ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (BurjKhalifa) แบบเต็มตัวตึกอีกด้วย
ค่ำ *** อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย ***
นำท่านกลับสู่โรงแรม เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 ดูไบ-GOLD&SPICE SOUK-JUMEIRAH BEACH-บุรจญ์อัลอาหรับ BURJ AL ARAB-นั่งรถ Monorail-THE PLAM-ทัวร์ทะเลทราย(4WD) (B/L/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินช้อปปิ้ง ตลาดทอง (GOLD SOUK) เป็นที่ 1 ของตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลกขายทุกอย่างที่เป็น JEWELRY เช่น มุก อัญมณี ต่างๆ ร้านเล็กๆ มากมายกว่าร้อยร้านค้า ให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ ตลาดเครื่องเทศ (SPICE SOUK) คือ ตลาดเครื่องเทศทั้งตลาดตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศหลากหลายชนิดจากทั่วทุกมุมโลกจำพวกไม้หอม อบเชย ถั่ว กระวาน กานหลู และถั่วร้อยแปดชนิดจากทุกที่ในตะวันออกกลาง
นำท่านชมชายหาด JUMEIRAH BEACH ซึ่งเป็นชายหาดตากอากาศที่สวยงามยอดนิยมของดูไบ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโรงแรม ตึกบุรจญ์อัลอาหรับ BURJ AL ARAB โรงแรมสุดหรู ระดับ 7 ดาว ที่สวยและหรูหราที่สุด แห่งหนึ่งของโลก และมีชื่อเสียงของตะวันออกกลาง ที่ทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีโอกาสเข้าไปสัมผัส ตั้งอยู่ริมอ่าวอาหรับ เป็นที่พักอาศัยของเศรษฐีชาวอาหรับ บุรจญ์ อัล อาหรับ (Burj Al Arab) หนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตึกบุรจญ์ อัล อาหรับ ปัจจุบันเป็นโรงแรมรูปทรงเรือใบที่สวยและหรูหราที่สุดระดับโลกและมีชื่อเสียงของตะวันออกกลางมีความสูง 321 เมตร หรือ 1,050 ฟุต ตั้งอยู่บนเกาะเทียมที่ถูกถมขึ้น ห่างจากแถบชายหาดจูเมร่าห์ 280 เมตร ริมอ่าวเปอร์เซียที่ทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีโอกาสเข้าไปสัมผัส ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเศรษฐีชาวอาหรับ การก่อสร้างของตึกเริ่มต้นก่อสร้างใน พ.ศ. 2537 แล้วเสร็จและเริ่มเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2542 รูปทรงของตึกถูกสร้างให้เหมือนกับใบเรือของเรือใบแบบชาวอาหรับ ซึ่งตัวตึกมีเสา 2 เสาแยกออกมาเป็นรูปตัว V ในขณะที่ช่องว่างระหว่างตัว V ส่วนหนึ่งก็ปิดให้เป็นห้องใหญ่ๆ และแบ่งออกเป็นชั้นๆ สถาปนิกได้กล่าวว่า "สิ่งก่อสร้างนี้ จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดูไบ" ซึ่งท่านนั่งรถ Monorail เดินทางสู่ โครงการเดอะปาล์ม THE PALM ซึ่งเป็นโครงการที่อลังการ สุดยอดโปรเจคส์โดยการถมทะเล ให้เป็นเกาะเทียมสร้างเป็นรูปต้นปาล์ม 3 เกาะ บนเกาะมีที่พักโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเม้น ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนักงาน ต่างๆนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก นำท่านชื่นชมความสวยงามของภูมิประเทศ และบรรยากาศรอบๆ โรงแรมนี้ Palm Island เป็นโครงการมหัศจรรย์ที่คิดค้นสำหรับรองรับการอยู่อาศัยในอนาคต สร้างโดยการนำทรายมาถมทะเลเป็นเกาะเล็กๆ รวม 301 เกาะ รูปร่างหากมองจากด้านบนรูปต้นอินทผลัม (The Palm) และ โครงการ The World จะเห็นเป็นรูปแผนที่โลก
กลางวัน รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก เพื่อเตรียมตัวตะลุยทะเลทราย ทัวร์ทะเลทราย ท่านจะสนุกกับการนั่งรถตะลุยไปเนินทราย ตื่นเต้น พร้อมชมพระอาทิตย์ตก หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ แคมป์ปิ้งกลางทะเลทราย โดยภายในมีกิจกรรมต่างๆให้ทุกท่านร่วมสนุก อาทิเช่น
- Henna Tattoo (ทดลองศิลปะการเพนท์ลวดลายแบบฉบับชาวอาหรับ)
- SHI SHA (เครื่องสูบบารากู่ แบบฉบับของชาวอาหรับกลิ่นผลไม)
- GALA BAYA ให้ท่านแต่งกายพื้นเมืองแบบชาวอาหรับ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ในแคมป์ กระโจมสไตล์อาหรับ พื้นเมืองเบดูอิน (Bedouin)
นำท่านกลับสู่โรงแรม เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4 ดูไบ-กรุงเทพฯ (-/-/-)
เช้า ได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางสู่ สนามบิน
ค่ำ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ