สถานที่ท่องเที่ยวในดูไบ

ดินแดนอาหรับสุดอลังการ ที่คุณต้องได้ไปสัมผัสซักครั้งในชีวิต กับเมืองที่ถือได้ว่ามีความมั่งคั่งทางการเงินสูงติดอันดับท็อปของโลก และเป็นเมืองที่พัฒนาได้รวดเร็วมากในเรื่องของการท่องเที่ยวและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หากได้มาเที่ยวดูไบ ก็คงต้องนึกถึงความหรูหรา ล้ำสมัย ความยิ่งใหญ่ตระกาลตา เพราะ จากเมืองทะเลทรายกลายเป็นเมืองสวรรค์ ทั้งโรงแรม แหล่งช๊อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าได้มาสักครั้งรับรองจะต้องติดใจอย่างแน่นอน

หมู่เกาะต้นปาล์ม

เป็นโครงการก่อสร้างเกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ในดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยแต่ละเกาะจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนต้นปาล์ม และล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลม โดยพื้นที่จะมีการจัดเป็นที่อยู่อาศัย และรีสอร์ท การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ ในโครงการจะมีการสร้างทั้งหมด 3 เกาะได้แก่ ปาล์ม Jumeirah, ปาล์ม Deira และ ปาล์ม Jebel Ali

อาคารเบิร์จดูไบ

อาคาร เบิร์จ คาลิฟา สร้างแล้วเสร็จในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552 และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ด้วยความสูง 818 เมตร สูงกว่าอาคารไทเป 101เจ้าของสถิติเดิมถึง 309 เมตร ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกใหม่ล่าสุดในขณะนี้ ไม่เพียงเท่านั้น เบิร์จ คาลิฟา ยังครองสถิติอาคารที่มีจำนานชั้นมากที่สุดคือ 162 ชั้นอีกด้วย

เบิร์จอัลอาหรับ

เป็นโรงแรมที่กล่าวว่าโรงแรมที่นี่นั้นเป็นแห่งเดียวที่เป็นโรงแรม 7 ดาว มีความสูง 321 เมตร หรือ 1,050 ฟุตและยังสูงเป็นอันดับ 32 ของโลก ตั้งอยู่บนเกาะที่ถูกถมขึ้นห่างจากชายฝั่งจูไมราบีช 280 เมตร ซึ่ง Burj Al Arab ก็เป็นโรงแรมต้นแบบของโรงแรมต่างๆในดูไบ รวมทั้งโรงแรมต่างๆทั่วโลกด้วย โรงแรมแห่งนี้ได้รับรางวัลต่างๆมากมายโดยเฉพาะโรงแรมที่ไฮโซ อลังการที่สุดในโลก เนื่องจากความหรูหราของสถานที่

ทะเลทรายซาฟารี

เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ 4 (รองจาก 1. Antarctic Desert / 2. Arctic Desert / 3. Sahara Desert) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของหลายประเทศในกลุ่มคาบสมุทรอาหรับ เช่น จอร์แดน อิรัก คูเวต กาตาร์ โอมาน เยเมน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,300,000 ตารางกิโลเมตร

น้ำพุยักษ์แห่งดูไบ

สุดอลังการและน่าตื่นเต้น ที่สำคัญ FREE!! ถ้าคุณได้ไป Vegas มา คุณอาจจะได้เห็นน้ำพุ Belaggio ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอลังการมาแล้ว แต่เชื่อไหมว่าที่เมืองดูไบนั้น ทำน้ำพุมาได้อลังยิ่งกว่าเยอะ ทั้งสูงกว่า ใหญ่กว่า เสียงดังนุ่มกว่า อารมณ์ประมาณว่ามานั่งดูน้ำพุอย่างเดียวก็อ้าปากค้างแล้ว ยิ่งไปในช่วงกลางคืน คุณจะยังได้เห็นแสงสีเสียงตระการตาจากการโชว์แสงไฟอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Dubai Mall Aquarium

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในห้าง Dubai Mall ที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นตู้กระจกอะคริลิกขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะที่นี่มีอุโมงค์ให้เดินลอดใต้ท้องกระจก เปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ของปลาทะเล ปะการังเทียมขนาดใหญ่ที่เหมือนของจริงมาก สามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ทะเลกว่า 33,000 ชนิด แบบพาโนรามาชัดๆ เต็มตากันไปเลย

สวนน้ำ Wild Wadi

สวนน้ำสุดล้ำที่ใหญ่ที่สุดในดูไบ กับพื้นที่ทั้งหมด 12 เอเคอร์ ตั้งอยู่บนถนน Jumeirah Beach ใกล้ๆ กับโรงแรม Burj Al Arab ถูกออกแบบมาให้เหมือนโอเอซิส มีลักษณะต่างๆ ตามเรื่องเล่าท้องถิ่นของอาหรับ จุดเด่นของที่นี่คือสไลเดอร์ที่ยาวและสูงที่สุดในโลก และยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ ให้มันส์กันกว่า 30 ชนิด กิจกรรมอีกมากมาย เรียกได้ว่ามีครบเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเลย

ตลาดพื้นเมือง Souk Madinat

ตลาดพื้นเมืองโบราณแต่แฝงไปด้วยความโรแมนติก ตกแต่งสไตล์อาหรับผสมผสานกับวัฒนธรรมของตะวันออกกลางแบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกที่ไม่ซ้ำกับการเดินตลาดที่อื่นเลย เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ผู้คนนิยมมาก เพราะบรรยากาศดี มีกลิ่นของน้ำหอมคละคลุ้ง ล้อมรอบด้วยคลองคดเคี้ยว รู้สึกอย่างกับหลุดไปในเมืองโบราณเลย เดินได้ทั้งกลางวันกลางคืน

มัสยิด Sheikh Zayed

มัสยิดที่สวยที่สุดในโลก ได้ถูกออกแบบและก่อสร้างจากช่างที่มีฝีมือทั่วโลกกว่า 3,000 คน และ 38 บริษัทเลยทีเดียวค่า โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1996 และเสร็จในปี 2007 วัสดุที่ใช้ก็มีทั้งหินอ่อน เซรามิก คริสตัลและทองคำ เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามได้อย่างหลากหลายและลงตัวเป็นที่สุด เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทุกคน

เส้นทางท่องเที่ยวในดูไบ

ตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว 10 ชั่วโมง ในดูไบ

pick up
บริการไปรับตามจุดที่ระบุ

Gold Souk
ตลาดทอง

Spice Souk
ตลาดเครื่องเทศ

Spice Souk
หาดจูไมร่าห์

Burj Al Arab
ตึกบุรจญ์อัลอาหรับ

Palm Islands
โครงการเดอะปาล์ม